Home Page
cover of Topic 1-Question 1
Topic 1-Question 1

Topic 1-Question 1

00:00-37:13

Nothing to say, yet

1
Plays
0
Downloads
0
Shares

Transcription

โอเค วันนี้เราจะคุยในเรื่องของการทำงานเนาะ กูจะมีหลายคำถามที่จะถามมึงอ่ะ เดี๋ยวกูถามมึงตอบก็พอเนาะ ใช่ค่ะ โดนแล้วมีประมาณ 7 คำถามเกี่ยวกับอาเภทนี้ โอเค เรามาจากคำถามแรกเลย ลองแนะนำตัวเองแบบเข้าๆหน่อยนะ อย่างเช่น ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เกิดที่ไหน มาอะไร อะไร ชื่อแบ็กนะครับ ชื่อจริงชื่อ ถามประกอดบรรยาศิษฐ์เนาะ แล้วก็ อายุตอนนี้ 28 ปี 28 ก็อายุเท่าคู่เนาะ เออ อายุเท่ากันเลย 28 ปี บ้านเกิดอ่ะ อยู่ที่จังหวัดสงขาเนาะ สงขา อ่ะเมืองไหน ใช่ เป็น อ่ะเมืองอำเภอชินาทวีอยู่ติดกับมาเลเซียเลย แบบใต้สุด แบบใต้ติดมาเลเซียเลย มหาวิทยาลัยที่จบ ชื่อมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อยู่ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งอันนี้อยู่ภาพเหนือเลย สรุปมึงเกิดที่ภาพใต้แล้วก็ไปเรียนที่ภาพเหนือ ใช่ เกิดภาพใต้แล้วไปเรียนที่ภาพเหนือ โอเค แล้วก็ประสบการณ์การทำงานอ่ะ หลังจากเรียนจบมาก็ไปทำเป็นผู้จัดการ คลั่งประจายสินค้าของบริษัทคนส่งบริษัทหนึ่ง ตอนนั้นทำอยู่แค่ 4 เดือนแล้วก็ลาออกเลย แล้วก็งานที่ 2 เป็นงานที่อยู่บริษัทมือถือ แล้วก็อยู่ที่นั่น 2 ปี ก็คืองานล่าสุดก่อนที่จะมาที่ออสเตรเลีย ก็คืองานที่ทำให้มึงรู้จักกูอ่ะ ใช่ งานที่เรารู้จักกันอยู่ที่ออฟฟิสเดียวกันนะครับ แล้วบริษัทที่ทำที่แรกชื่ออะไรเนี่ย บริษัทที่ทำที่แรกชื่อบริษัท JMTX Place ก็เป็นบริษัทของจีนเนี่ยแหละ หัวหน้าก็เป็นคนจีนเหมือนกันตอนนั้น ภาษาจีนจะเรียกว่า จีทู จีทูสูตี้ไหม ใช่ จีทู แล้วบริษัทที่ 2 ล่ะ บริษัทที่ 2 ชื่อ บริษัทที่ 2 ชื่อ OnePlus Communicate ก็คือบริษัทมือถือที่ชื่อ OnePlus ภาษาจีนเรียกว่า อีจาโชจี ใช่ อีจา ใช่ อยู่ที่นั่นมา 2 ปีแล้วก็ ลาออกมาอยู่ที่ออสเตรเลีย โอเค แสดงว่าตอนนี้ใช้ชีวิตที่ออสเตรเลีย ถูกต้อง ตอนนี้อยู่ที่ออสเตรเลียนะครับ ตอนนี้มาเรียนหนังสือ ที่แรกก็มาเรียนภาษาอังกฤษก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ ไปเรียนคอร์สอื่น ที่เป็นคอร์สที่มันจะ เน้นไปทางด้านของการอาชีพมากกว่า เน้นไปในเรื่องของอาชีพมากๆ แบบว่าต้องไปเรียน เขาเรียกว่าอะไร Hospitality ก็คืองานบริการ อะไรอย่างนั้น เขาก็จะสอนเราว่าแบบ ถ้าเจอลูกค้าแบบนี้ จะต้องทำยังไง หรือว่าวิธีการเซิร์ฟว่า ให้เซิร์ฟเล่า หรือแม้แต่กระทั่งการจองโรงแรม หรือการจัดการ จัดห้องบริหารจัดการ ให้กับลูกค้าทำยังไง ก็คือทั้งงานบริการทั้งหมด เขาก็จะสอนเรา แล้วก็อันนี้ก็จะสามารถ ทำงานที่ออสเตรเลียต่อได้ ขอให้มึงจะได้พีอาในอนาคตนะ เมื่อไหร่จะตามมาเที่ยวล่ะ รอกูเรียนจบก่อน โอเค อย่างนั้นรอนะ โอเค เมื่อกี้มึงบอกว่าเกิดที่พักใกล้ใช่มั้ย ใกล้หัดใหญ่มั้ง ใช่ ก็คือสงคลาเนี่ย เป็นจังหวัดหนึ่ง แล้วก็หัดใหญ่เป็นอำเภอในสงคลา แล้วทีนี้อำเภอที่กูอยู่อ่ะ คืออำเภอนาเทวี ก็คือเป็นอีกอำเภอหนึ่งเหมือนกัน ของจังหวัดสงคลา ติดกับมาเลสเซีย นั่นก็คือเพจผลที่ มึงน่าแข็กนิดหนึ่งเนอะ อ๋อ ใช่จริงๆ น่าจะมีเชื้อสายมาเลสเซีย น่าจะจริง น่าจะใช่ แล้วนี่ไม่เคยรู้เหมือนกันเพราะว่า บรรพบุรุษก็ไม่มีใครเป็นแขก อืม โอเค แล้วเราจบคำถามแรกไปแล้วเนอะ คำถามที่สองคือ ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ ทำไมถึงเลือกทำงานนี้ ตอนนี้ทำงานอยู่สองงาน ก็คืออยู่ที่ออสเตรเลียน เราจะมีความอิสระระดับหนึ่ง ในการเลือกงานในการทำ ตอนนี้ทำงานแรก งานแรกก็คืองานอยู่ เป็นร้านสลัดของฝรั่ง แล้วก็ งานที่สองก็คืองาน ในซูเปอร์มาเก็ต เอาพูดถึงงานแรกก่อน งานแรกนี่ก็คืองานร้านสลัด อันนี้ก็จะมีความแตกต่างกับงานที่สองมากๆ เพราะว่างานนี้จะต้องมีการ เรียกว่าอะไร ต้องมีการเตรียมอาหาร แล้วก็มีการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า แล้วก็จะต้องเจอลูกค้า ในทุกๆวัน ในการทำงาน เจอลูกค้าค่อนข้างเยอะ แล้วก็ ต้องเดียวปัญหาเยอะ เพราะว่าเกี่ยวกับอาหาร เขาจะเน้นความสะอาดเยอะมากๆ ที่ออสเวลีย เขาก็จะแบบ มีสิ่งไม่ดีอยู่ในอาหารเลย ค่อนข้างจะหนัก แต่ว่า งานนี้ก็สนุกเพราะว่า ได้เจอลูกค้าที่เป็นแบบฝรั่ง แทบ 100% เพราะว่า ร้านที่ทำอยู่เป็นร้านของฝรั่ง แล้วก็ได้ฝึกภาษาอังกฤษดีมากๆ สนุกมากๆ ส่วนงานที่ 2 ก็คืองานซูเปอร์มาเก็ต แต่ว่าอันนี้กูทำอยู่ที่ ซึ่งภาษาของเบเกอรี่เนี่ย มันมีหลายพาร์ตของการทำงานมากๆ ก็คือมีการอบขนมปัง หรืออบคุกกี้ แล้วก็มีการแบบว่า เอาของพวกนี้ออกไปใส่เชฟ เลี้ยงจัดของอะไรให้มันสวยงาม เหมือนกับในช็อปในห้าง ส่วนอันนี้ก็ไม่ค่อยได้คุยกับลูกค้า แบบนานๆทีลูกค้าจะเดินเข้ามา ถามของอันนั้นอยู่ตรงไหน ของอันนี้อยู่ตรงไหน เราก็แค่จะต้องแบบว่า แบบว่า ของที่ลูกค้าต้องการ มันอยู่ตรงไหน ไปจิบได้จากตรงไหน เข้าใจ กูขอสลุกหน่อยนะ งานแรกของมึงก็คือทำที่ร้านสลัด งานที่หลักๆของมึง ก็จะเป็นการรับออเดอร์ แล้วก็เซอร์ฟอหาร ต่างๆอย่างอื่นไหม มีๆก็คือ ในร้านสลัดมันจะมีอยู่ สามพาร์ตหลักๆในร้าน พาร์ตรับออเดอร์ พาร์ตทำสลัด แล้วก็พาร์ตเตรียมของข้างหลังในครัว ซึ่งกูอ่ะ จริงๆทำเป็นทั้งสามอย่างเลย แต่ว่ามันก็จะขึ้นอยู่กับว่า วันนั้นอ่ะ ได้อยู่กับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ แล้วก็เพื่อนร่วมงานที่อยู่ตรงนั้น เขาทำอะไรเป็นบ้าง ซึ่งพอไปถึงเสร็จ แล้วเพื่อนร่วมงานที่เราไปทำงานด้วย เขาทำเป็นแค่สิ่งนี้ ก็ต้องให้เขาทำสิ่งนั้น เขาทำเป็นแค่อีกสิ่งนึง เราก็ต้องให้เขาทำแค่สิ่งนั้น ซึ่งไอ้สิ่งไหนที่ไม่มีคนทำ เราก็จะไปทำ แต่ว่าส่วนใหญ่จะได้ทำเป็นหน้าที่ทำสลัด กับรับออเดอร์ ข้างหลังในครัวไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ มึงทำได้ทุกอย่าง มึงเก่ง แต่ต้องทำได้ทุกอย่าง เพราะว่า บางทีเขาจะส่งคนใหม่มาให้ หรือว่าส่งน้องๆ ด้วยความที่ออสเตรเลียน เด็กมัทยม มันมาทำงานได้ ถูกกฎหมายด้วยนะ เขาก็จะให้เด็กมัทยมมาบางครั้ง แล้วทีนี้เราก็ต้อง คอนโทรน้องๆ ถ้าเราทำงานไม่เป็นทุกตำแหน่ง เราก็จะคอนโทรน้องๆไม่ได้ แล้วเคยด่าไหม เคยด่า แต่ว่าปกติแล้ว กูเป็นคนไม่ด่า คนอื่นจะด่า แล้วกูก็จะเป็นคนแบบ ไม่เป็นไรนะ กูก็เข้าไปปลอบเขา แต่ว่าถ้าวันไหนกูรู้สึกว่า มันไม่โอเค แล้วกูจะเดินไปบอกเลยว่า อันนี้ไม่โอเค อย่าทำแบบนี้ อะไรอย่างนี้ นานๆ ทีจะเห็นกูแบบด่าคน ทำตัวเป็นคนดี ไม่จริงครับ เป็นคนดีมากๆ จริงๆเป็นคนดีด้วย ด้วยนิสัยอยู่แล้ว เพราะไม่อยากเห็นคนอื่นเสียใจ โอเค เคยเข้าใจ แล้ว เมื่อกี้ยังถามว่า ทำไมถึงเลือกทำงานนี้ สองงานนี้ งานแรก ได้เพราะว่า น้าของกูที่มาอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว เขาเป็นคนแนะนำให้ ก็คือเขารู้จักกับคนที่อยู่ในร้าน เขาก็เลยบอกว่า มีหลานมาจากประเทศไทยนะ พอจะมีงานให้หลานไหม เขาก็เลยแนะนำมา กูก็เลยได้เข้ามาอยู่ พอเห็นว่าเขาจ่ายสูงมากๆ เขาจ่ายชั่วโมงสูงมากๆ สำหรับคนที่เพิ่งมาใหม่ๆ กูก็เลย เอาร้านนี้เลย แล้วก็พอเข้ามาทำ ก็น่าจะสนุก เพราะว่าเพื่อนร่มงานด้วยความที่ เขาจ่ายไว้มากๆ แต่ว่าทุกคนเป็น International แบบว่าทุกคนเป็นหลากหลายสันชาติ แล้วพอมาอยู่ด้วยกัน เราก็จะได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย กับทั้งเพื่อนร่มงาน กับทั้งลูกค้า เราจะได้ใช้ทั้งภาษาอังกฤษ แล้วก็ได้แก้ปัญหา ก็เลยสนุก ส่วนงานที่สอง ก็คืองานซูเปอร์มาร์เกต มันเป็นงานที่ เรียกได้ว่ามันคืองานมั่นคง เพราะว่ามันเป็นงานพาสทาม เราจะมีสัญญากับเขาว่า เขาจะให้ชั่วโมงเรา ไม่ต่ำกว่าเท่านี้นะ ตอนหนึ่งอาทิตย์ เขาจะไม่สามารถแบบลดชั่วโมงในการทำงานเราได้ แล้วก็สวัสดิการเขาดีมากๆ ถ้าเกิดว่า ลาฮอลลี่เดย์กลับบ้านกลับไทย ช่วงลาฮอลลี่เดย์ เขาก็ยังจ่ายเงินกูอยู่นะ ต่อให้กูไม่ทำงาน แล้วก็วันไหนป่วย หรือวันไหนจะลา เขาก็จ่าย ป่วยก็จ่าย แล้วก็ฮอลลี่เดย์ก็จ่าย ซึ่งมันก็ดี แล้วมันเป็นองกรที่ใหญ่มากๆ เวลากูใช้เครดิตในการไปทำอะไร กูมาเช้าบ้านอยู่กับเพื่อนหลายคน กูเป็นคนติดต่อไปเช้าบ้าน แล้วก็ใช้หลักฐานว่ากูทำงานที่นี่ เขาเชื่อใจและเขาให้ผ่าน ก็เป็นงานที่มีเกียรติ ใช่ก็เป็นงานที่ หลายๆคนอยากเข้ามาทำ คือคนไทยหลายคนอยากเข้ามาทำ เยอะมากๆ เขาก็ถามแล้วเข้ามายังไง มันสมัครยากมากๆเลยนะ หลายคนสมัครมาแล้วก็ไม่โดนเรียก แล้วมึงได้อันนี้ได้ยังไง ได้อันนี้เพราะว่า เพื่อนแนะนำมาอีกรอบหนึ่ง ก็คือเหมือนเขาประการหาคน แล้วทีนี้เพื่อนก็สนใจ เพื่อนก็เลยชวนกูไปด้วย แล้วพอวันที่กูไปด้วย เหมือนพวกกูสมัครกันทั้งหมดเลย เพื่อนๆทุกคนที่ไป แล้วก็เหมือน มินเนจเจอ เขาเลือกกู เพราะว่าเขาดูอะไรหลายๆอย่าง เขามองว่ากูก็คือสามารถทำงาน ที่มันใช้แบบ ใช้กำลังได้ แล้วก็ทำงานที่มันแบบ ละเอียดอ่อนอย่างแบบ อบคุกกี้หรือว่าทำเค้ก เป็นคนที่ทำได้ทั้งสองอย่าง เขาก็เลยรู้สึกว่า กูน่าจะเหมาะที่สุด เขาก็เลยเลือกกู อาจจะเป็นเพราะมึง ดูมีแรงใช่ไหม แล้วก็พูดได้ ประมาณนั้น ใช่พูดได้สามภาษาด้วย คือตอนนั้นเขาน่าจะมองเรื่องของภาษาอังกฤษด้วย เพราะว่าจะต้องสื่อสาร กับเพื่อนร่วมงานที่เป็น คนต่างชั่นหมดเลยทุกคน อะไรอย่างนี้ แล้วเคยใช้ภาษาจีนในการทำงานไหม เคย ทั้งสองที่เลยนะ ที่แรกร้านสลัด มันมีแบบประมาณว่า 7-8สาขาทั่วซิดนี่เลย แล้วมันจะมีบางสาขา ที่จะไปอยู่ที่คนจีนเยอะๆ มีอีกครั้งหนึ่ง ไปวันนั้นดับออเดอร์ แล้วก็ลูกค้ามัน เขาพยายามจะสั่ง แต่เขามันพูดภาษาอังกฤษออกมาไม่ออก แต่กูได้ยินเขาพูดภาษาจีนกัน แล้วทีนี้กูก็เลยโอเควะ กูก็เลยพูดภาษาจีน กูก็แนะนำเขาเป็นภาษาจีน แบบพวกนี้ก็คือ นี่เพิ่งมาครั้งแรกใช่ไหม นี่ให้บ่อนแนะนำไหม เขาแบบ นี่พูดภาษาจีนได้ แล้วทีนี้พอกูพูดภาษาจีน กับเขาไปแล้วเขาก็ดูแฮปปี้ มากๆกับการที่กูแนะนำเขา แล้วก็เขาก็สั่งนี่นั่นอะไร แล้วกูก็รู้สึกแฮปปี้มากๆเหมือนกัน ที่ได้ช่วยลูกค้า ได้ใช้ความสามารถที่ตัวเองเรียนมา แบบภาษาที่กูเรียนมาในการช่วยเหลือเขา อะไรอย่างนี้ นั่นคือที่แรก แล้วก็ที่ที่สองคือที่ทำงานซูเปอร์เมอร์เก็ต มีคุณตากับคุณยาย มาหาซื้อวิตามิน แล้วทีนี้มันหมด มันใช้เครื่อง Google Translate หรืออะไรซักอย่างหนึ่ง กดแล้วให้มันเป็นเสียงออกมา เป็นภาษาอังกฤษให้กู กูก็เลยพูดภาษาจีนไปเลยว่า กูพูดภาษาจีนได้นะ แล้วก็ท๊อคก็เลยแบบ ดีมากๆเลย แล้วก็แบบช่วยช่วยวอนหน่อยได้ไหม กูก็เลยแบบช่วยเขา หาแล้วก็ไปคุยกับเพื่อนร่อมงาน เขาต้องการอะไรเขาหาอะไร แล้วก็ช่วยเขา เขาก็ดูแบบ Appreciate มาก เขาดู Happy มากที่กูช่วยเขา แล้วกูก็รู้ว่า ภาษาที่เรียนมาก็ได้ช่วยเหลือคนอีกแล้ว กูชอบมากๆ ขอถามคำถามต่อไปนะ ครับ คำถามที่ 3 คือ ชอบอะไรในงานปัจจุบันมากที่สุด ก็คือทั้งสองงานเลยนะ ทั้งสองงานความชอบมัน เหมือนกันเลย ทั้งสองวัน เราไปทำงานไม่ใช่แค่เราได้เงิน เราไปทำงานก็คือ เราได้ประสบการณ์ด้วย ปัญหามันจะมีไม่เหมือนกัน พอเราเจอลูกค้าอีกคนหนึ่ง คนหนึ่งก็จะมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง พอเจอคนอื่น คนอื่นก็จะมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คือมันจะทำให้เรารู้สึกว่า เราได้แก้ปัญหาแล้วทำให้เรา รู้สึกมีคุณค่ากับตัวเองว่า เราก็เก่งเหมือนกันนะ ที่สามารถแก้ปัญหากับลูกค้า ซึ่งที่แบบ ความต้องการเขาไม่เหมือนกันเลย แต่ละคน แล้วก็ได้ไปฝึกภาษาอังกฤษในสถานที่จริง ๆ แบบว่า แค่เรามาฝึกอยู่ในห้องเรียน มันก็ไม่เหมือนกันกับการที่เราไปเจอกับลูกค้า จริง ๆ ว่าเขาพูดแบบ อย่างออสซี่มา แบบสำเร็จออสซี่มาเลย อะไรอย่างนี้ เราก็ต้องเอาตัวรอดตรงนั้นให้ได้ ทำยังไงก็ได้ให้เราเอาตัวรอดให้ได้ อะไรอย่างนี้ เรารู้สึกว่าในทุก ๆ วัน มันคือ เหมือนเราไปเล่นเกม มันคือสนุก ก็เลยทำให้ชอบมาก ๆ แต่ว่าอีกอย่างหนึ่งที่ชอบมาก ๆ เลยก็คือ มันไม่เหมือนงานออฟฟิส ตรงที่พอเราเลิกงานจะไม่มีใครมายุ่งกับเราเลย หรือวันหยุด จะไม่มีใครโทรมาตามงานเราเลย อย่างล่าสุดเคส ล่าสุดเพื่อนกลับไทยใช่ไหม เพื่อนกลับไทย เพื่อนคนไทยด้วยกันที่อยู่ที่นี่กลับไทย สามอาทิตย์ เขาบอกว่าเป็นสามอาทิตย์ที่เขาได้พักขวนเต็มที่มาก ๆ มันไม่เหมือนตอนที่ทำงานอยู่ที่ไทย ที่แบบไม่มีคนโทรตามเขาเลย แล้วเขาไม่ต้องคิดเรื่องงานเลย เลยได้ใช้เงิน แค่เขาทำงานเพื่อเก็บเงิน แล้วกลับไปใช้ชีวิตที่ไทย ไม่ต้องคิดเรื่องงาน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ชีวิตไม่ต้องการอะไรมากกว่านั้น ดีมาก ขอสลุกหน่อยนะ ที่มึงชอบมีประมาณ 3 ข้อ ข้อแรกคือ มึงจะได้เก็บประสบการณ์ เป็นการทำงาน ทีหลังอาจจะทำให้มึงได้ตำแหน่งเป็นแมนเนเจอร์ก็ได้ ใช่ หรือไม่ก็ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็จะรู้ปัญหา แล้วก็ไปแก้ไขธุรกิจตัวเองได้ ข้อที่ 2 ก็คือ มึงได้ฝึกภาษาอังกฤษ ใช่ อันนี้คือดีมาก ข้อที่ 3 ก็คือ สอมงานนี้ ทำให้มึงมีเวลาส่วนตัว ใช่ 100% ไม่มีใครมายุ่งกับเราเลย โอเค กูก็อยากได้งานแบบนี้ สามข้อเป็นสามข้อที่ดีมากๆ ใช่ จริงๆเราสามารถมีงานแบบนี้ได้ ถ้ามึงเรียนจบแล้วมึงมาอยู่ออส เดี๋ยวกูจะ พามึงมาทำงาน เดี๋ยวกูไปแน่ ได้กูรอ ข้อที่ 4 คือ ลักษณะและสภาพแว่นล้อม การทำงาน ของงานประชุภาพ ต้องอธิบายแยกทั้งสองงาน งานแรกคือร้านซาลัด ร้านซาลัดก็จะเป็นร้าน เปิดโล่งๆเลย เพื่อให้ลูกค้าได้เห็น มีตู้ซาลัด ตรงรับออเดอร์ และในครัว สภาพแว่นล้อมในการทำงาน มันก็จะเป็นร้านอาหาร ความสนุกของ ที่ทำงานตรงนั้น พอมันเปิดเสร็จ บางทีลูกค้าเห็นเราว่าง ก็มาเล่นกับเรา เพื่อนร่วมงานเอง ถ้าว่างก็จะยืนคุยกัน คุยกันปัญหาชีวิต อับปรึกษากัน ซึ่ง เราได้มา คุยเล่นระหว่างทำงานได้ ช่องเครียดมันมี ช่องยุ่งมันมี ช่องที่เราไม่ต้องคุยกันเลย แต่ว่าพอทุกอย่างมันไม่ยุ่ง มันก็จะแบบ ได้คุยเล่นกัน ส่วน ที่ทำงานของซูเปอร์มาเก็ต ก็คือจริงๆแล้ว พนักอื่นๆเขาก็จะมีเพื่อนร่วมงานกัน หลายคนมากในหนึ่งชิป เขาเรียกว่าอะไร กะ เขาก็จะมีกันหลายคน แต่ว่ากูงงมากว่า พนักกูตอนที่กูทำ เขาชอบให้กูอยู่คนเดียว แล้วไม่มีเมนเนเจอร์มาคุมกูด้วย ก็คือกูก็จะเหงา กูทำแบบนี้แหละวันละ 5 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมงที่แบบไม่ได้คุยกับใครเลย จนแบบเพื่อนพนักทั้งข้างก็เดินมา Hi Ollie ถ้าเกิดว่าทำงานอยู่ที่นี่ เขาจะใช้ชื่อกูว่า Ollie เพราะว่าฝรั่งเขามองว่าชื่อ BACK ความหมายไม่ดี เขาก็เลยขอให้กูเปลี่ยนชื่อเป็น Ollie แบบชื่ออะไรก็ได้ อยู่เรื่องหมากูเลยเลยชื่อ Ollie Ollie เป็นชื่อของหมาไม่ใช่เหรอ เป็นพันหมา อันนั้นบอลลี่ Ollie เป็นชื่อของท่าสเก็ตบอล ก็ดีหน่อยตรงที่แบบว่า เวลากูทำงานอยู่ในเซคชั่นของกูเอง กูก็เอาคุกกี้ของกูไป หรือว่าทำอะไรของกูไป เพราะความที่กูเป็นคนที่ เป็นคนที่อัทยาสัยดี Friendly ใช่ไหม กูก็ยิ้มกับเค้าทุกคนไปเลย แล้วกูก็เล่นกับเค้าทุกคน แล้วก็ทุกคนก็จะแบบ ก่อนที่เค้าจะเดินผ่านมันจะมีเป็นประตูนะ เค้าก็จะเดินผ่านแล้วเค้าก็จะแบบ ก่อนที่เค้าจะผ่านเค้าจะหยุดก่อน หยุดเสร็จปุ๊บเลย Ollie Ollie Ollie แล้วเค้าก็ไป แล้วกูก็เฮ้ ไฮ ไฮ แล้วกูก็ทำอะไรของกูไป ซึ่งความน่ารักมันอยู่ตรงนั้น เค้ากลัวกูเหงา บางคนเดินมาแบบ You ทำไม You ไม่ใส่ Airpods ฟังเท้งล่ะ กูก็แบบ ไม่อ่ะอยากโฟกัส คือบางทีเค้าประกาศ เรียกในห้างก็จะเรียก Ollie can you please come to the back dock please อะไรงี้กูก็ต้องฟัง เค้าประกาศเรียกไหม แล้วก็ อันนั้นคือในส่วนของ Section ของการ ทำภูกกี้ ทำอะไรข้างหลังตรงนั้นก็จะไม่ค่อยมีคน เพราะว่ากูอยู่คนเดียว แต่ถ้าเกิดออกไปข้างนอก มันจะมีเป็นเชลฟให้เราไปเติม แบบพวกขนมปัง หรือว่าไปจัดเรียง ของที่เป็นขนม กูก็ต้องดูแลมันด้วย ให้มันสวยงามอยู่ตลอดเวลา พอออกไปตรงนั้น ลูกค้าก็จะแบบ Excuse me แล้วก็ถามว่าของอยู่ตรงไหน อะไรตรงไหน ไม่ปล่อยให้กูว่างเลย ก็ทั้งว่าเห็นว่ากูยุ่งอยู่ กูรีบมากๆเพราะว่าเวลามันจะหมด กูต้องรีบทำ ก็จะถามบางทีของอยู่ตรงหน้าเลย Excuse me Can you please tell me what do you want กูบอกว่า เขาไม่หา เขาเน้นถาม แต่มันก็สนุกลงที่แบบว่าบางที เราไม่รู้จักของนั้น กูบอกว่า เหมือนเขาพูดชื่อแบรนด์ แบรนด์แต่ละประเทศมันก็ไม่เหมือนกัน ด้วยความที่กูมาอยู่ที่ออสก็ปีกว่า กูรู้จักทุกแบรนด์มันก็ไม่ใช่ เขาก็พูดชื่อแบรนด์มาเลย กูก็เลยแบบ ลูกค้าขอบคุณ กูจะรู้สึกแบบ กูหายเหนื่อย แบบอยู่ใจดีมากเลย บางทีของมันไม่มีของมันหมด กูก็แบบเดินไปหาให้ เขาแบบเอออย่างน้อยๆ กูก็หาให้ขอบคุณนะ แบบนี้น่ารัก กูก็น่าจะเฟลลี่กับกู กูว่าด้วยความที่กูเป็นคนน่ายยิ้มด้วย หมายถึงว่าแบบปกติแล้วที่กูอยู่นั่งเฉยๆ ก็เป็นคนน่ายยิ้ม เป็นหน้าเวลคัมคนอะไรอย่างเนี้ย เขาก็เลยชอบเข้ามา ชอบเข้ามาเล่น เขาเข้ามายุ่งมาทำ แต่ก็มีที่ไม่น่ารัก ก็มีที่แบบว่าเหมือน เขาก็แบบมาทำหน้าบึ้งตึงสักที แล้วก็ถามก็ตอบ แล้วก็พูดไม่ดีด้วย แต่กูก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ กูก็ลืมไปเลย พอเขาเดินไปกูก็ไม่ได้สนใจแล้ว กูก็จะเก็บเฉพาะคนที่เขาแบบไนซ์กับกู โอเค แสดงว่ามึงยังไม่เคยได้เจอลูกค้าแบบกู ลูกค้าแบบมึง กูก็จะใช้ไม้หน้าสามตรงนั้นเลย ไม่ได้นะห้ามทำแบบนี้กับ กับธนักงานนะ ถ้ามึงทำแบบนี้มึงเสียงานแน่ เออใช่ เพราะว่าที่กูทำงานอยู่ เขาบอกว่าถ้าเจอโจร หรืออะไรพวกนี้ ห้ามไปสู้เด็ดขาด ก็คือต้องเดินออกมาเลย คือแบบต่อให้เห็นว่าเขาขโมยของอยู่นะ เราก็จะต้องแบบ แค่ไปแจ้งแมนเนจเจอว่า ฉันเห็นคนนี้ขโมยของ แต่ว่าเราห้ามไปแตะตัวเขา หรือว่าอะไรเพราะว่าไม่งั้นเขาจะสู้กับเรา ห้ามสู้เขาจะไม่ให้พนักงานสู้ ต่อให้เขาขโมยของไปก็ต้องห้ามสู้ ก็เพื่อความปลอดภัยของมึงเลย อืมนั่นแหละ จริงๆมันมีนะ มีเป็นประสบการณ์หนึ่ง ประสบการณ์ที่เจอโจรต่อหน้าเลย จะฟังไหม มีประสบการณ์ ก็คือเจอโจรในร้าน ก็เหมือนกูเติมขนมปังอยู่นี่แหละ แล้วก็ ไอ้ข้างหลังกูมันจะเป็นที่ พวกถั่วพวกอาวม่อน ที่มันจะเป็นอยู่ในกล่อง แล้วเขาให้ตักใส่ถุงแล้วก็ช่างน้ำหนัก แล้วทีนี้เหมือนโจรมันแบบ มันใส่แล้วมันแอบไว้ในเสื้อข้างใน แล้วทีนี้คุณป้าคนหนึ่งเขาเดินมาเห็น แล้วเขาก็มาบอกกูว่า อยู่คนนี้กำลังขโมยของ อยู่ไปจับเขาเลย นี่ก็ได้แบบ ตกใจแล้วทีนี้ ป้าเขาพูดเสียงดังมาก ก็คือโจรได้ยินแหละ อยู่เขาขโมยของอยู่ไปจับเขาอยู่ไปจับเขา ก็เลยป้าอยู่คามดาว กูก็เลยแบบกูเดินออกห่างไปจากโจรก่อน กูก็เลยเดินไปบอกแบบว่า ตรงเซอร์วิทย์ข้างหน้าที่แบบ เขาจะเช็คอาวท์ ลูกค้าแบบจ่ายเงินอะไรอย่างนี้ กูก็เลยไปบอกว่า นี่กูเห็นโจรคนนี้ ใส่หูสีฟ้า พวกยูดูดีๆนะอะไรอย่างนี้ เห็นเขาขโมยของอยู่ เขาก็เลยแบบวอกกี้ทอกกี้ก็คือวิทยุ หากันแบบพวกยูแบบ ทุกคนระวังอะไรอย่างนี้ เพราะเขาเดินออกมาก็ขอเช็คกระเป๋าอะไรอย่างนี้ แต่ว่าโจรมารู้ตัวแล้วไง เพราะคุณป้าบอกว่า ยูยูยูไปจับเขาเลย ไปจับเขาเลย นั่นแหละ ประสบการณ์ครั้งเดียวที่นั่นที่เจอ ป้าเคยเป็นดำรวจเหรอ ป้าใช้ให้กูไปสู้กับโจร ถ้าป้าจะสู้ป้าไปสู้เอง เข้าใจ ทำๆต่อมา ลองคิดทบทวนถึงงานที่ผ่านมา ที่มึงเคยทำที่ไทนัก ซึ่งเป็น บริษัทขายมือถือ ขายสมาร์ตโฟน ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง มีจุดไหนบ้างที่มึงชอบและ ไม่ชอบ ก็ตอนนั้นทำอยู่ที่ไทนัก เป็นบริษัทขายมือถือ แบรนด์หนึ่ง ตอนนั้นเป็นตำแหน่ง ผู้ช่วย ตอนนั้นเป็นผู้ช่วย ด้วยความที่งานของผู้ช่วย มันจะเยอะมากๆ จะเป็นเลขา แต่เป็นเลขาที่ เรามีพาเวอร์ในการ ไปคอนโทรคน ด้วย ในขณะเดียวกัน เราก็จะต้องรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับที่หัวหน้ารู้ ต้องถือข้อมูลทั้งหมด เซลล์ ดาตา ทั้งหมด รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ

Other Creators